ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่ง เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียน
ของครูโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ผู้วิจัย นางกานต์สินี วิเศษสมบัติ
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนหนองสังข์วิทยายน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
ปีที่ทำการวิจัย 2560-2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่ง เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการด้านการทำวิจัยชั้นเรียนของครู 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่งเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู โดยการเปรียบเทียบสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู และ4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่งเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในศึกษาผลการใช้รูปแบบ ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 25 คน ปีการศึกษา 2560-2561 เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน 2) แบบสังเคราะห์เอกสารรูปแบบการนิเทศ 3) แบบนิเทศ กำกับติดตาม การพัฒนาครูให้มีความสามารถด้านวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 4) แบบวัดสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียน และ5)แบบสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อรูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่ง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการวิจัย
ระยะที่ 1 สร้างความตระหนักในการดำเนินการวิจัยและพัฒนา เป็นกระบวนการที่ออกนิเทศโดยการสอบถามพูดคุยกับครูผู้ทำการวิจัย
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่ผู้บริหารสถานศึกษาติดตามกระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนาครูผู้สอน ติดตามการแก้ปัญหาและให้คำแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย
ระยะที่ 3 เป็นระยะที่ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการวิจัยของครูผู้สอน เป็นการให้ข้อเสนอแนะในการบันทึกผลการวิจัยและการสรุปผลการวิจัยอย่างเป็นระบบ
ระยะที่ 4 เป็นระยะที่ผู้บริหารสถานศึกษาตรวจผลงานวิจัย และอบรมประชุมโดยให้ครูผู้สอนซักถามปัญหาการดำเนินการ กระบวนการวิจัย ตลอดถึงแนะนำรูปแบบการเขียนรายงานการวิจัยอย่างเป็นทางการ
ผลการนิเทศ กำกับติดตาม การพัฒนาครูให้มีความด้านสามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการ
เรียนรู้ ของครูผู้สอน พบว่า ครูส่วนใหญ่ มีความรู้ด้านการวิจัยอยู่ในระดับมาก และสมรรถนะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู ก่อนการเข้ารับการพัฒนาตามรูปแบบการนิเทศแบบโค้ชชิ่ง มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 20.92 คิดเป็นร้อนละ 69.72 หลังเข้ารับการพัฒนา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.63 คิดเป็นร้อยละ 88.75 มีพิจารณาค่าความต่างของคะแนน พบว่า หลังเข้ารับการพัฒนามีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น 5.71 คิดเป็นร้อยละ 19.03
4. ผลการประเมินของครู หลังเข้ารับการอบรมโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการวิจัยชั้นเรียน โรงเรียนหนองสังข์วิทยายน พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.26